ไขความจริงเรื่องตำนานการชาร์จแบตมือถือ Android

📰 Infonium
ไขความจริงเรื่องตำนานการชาร์จแบตมือถือ Android
หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการชาร์จแบตมือถือ Android ส่วนใหญ่มาจากคำแนะนำที่ล้าสมัย แต่ความจริงคือสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ๆ มีระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ทันสมัย ป้องกันการชาร์จเกิน ระบบเหล่านี้มักใช้ AI ช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานและปรับการชาร์จให้เหมาะสม เช่น ชาร์จจนถึง 80% แล้วหยุดชาร์จ ค่อยชาร์จเต็มก่อนที่ผู้ใช้จะถอดปลั๊ก การชาร์จแบบชาญฉลาดนี้ช่วยลดความเครียดต่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในสมาร์ทโฟนอย่าง Samsung Galaxy S25 Ultra และ Google Pixel 9 Pro แม้การชาร์จข้ามคืนจะปลอดภัยโดยทั่วไป แต่การปล่อยให้แบตเตอรี่อยู่ที่ 100% ตลอดเวลาอาจทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น การตั้งค่าจำกัดระดับการชาร์จ (ถ้าอุปกรณ์รองรับ) จึงเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพแบตเตอรี่ในระยะยาว ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่ว่าการชาร์จหลายครั้งต่อวันหรือชาร์จเสริมนั้นไม่ดี ความจริงคือการรักษาระดับการชาร์จระหว่าง 20% ถึง 80% มักจะดีที่สุดสำหรับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน วิธีนี้ช่วยลดความเครียดจากการที่แบตเตอรี่มีพลังงานน้อยหรือมากเกินไป ผู้ใช้ควรทราบด้วยว่าการใช้การชาร์จเร็วไม่ได้ทำให้แบตเสียหายมากกว่าการชาร์จช้า เทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนาขึ้นเพื่อจัดการความร้อนและการจ่ายพลังงานจากการชาร์จเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นความสะดวกสบายของการชาร์จเร็วจึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพแบตเตอรี่มากนัก อีกตำนานหนึ่งคือการใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จจะทำให้แบตเสีย แม้การชาร์จและการใช้งานหนักจะทำให้เกิดความร้อน แต่โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ก็ออกแบบมาพร้อมระบบจัดการความร้อนเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไป การใช้งานเล็กน้อยจึงไม่น่าจะทำให้แบตเสียหายมากนัก สุดท้าย ความคิดที่ว่าต้องใช้แค่ที่ชาร์จของแท้เท่านั้นจึงปลอดภัยนั้นล้าสมัยไปแล้ว ถึงแม้การใช้ที่ชาร์จที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่ชาร์จจากผู้ผลิตอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงหลายยี่ห้อก็ปลอดภัยและให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับของผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม ผู้ใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่ชาร์จจากผู้ผลิตอื่นๆ ได้รับการรับรองความปลอดภัยและมีแรงดันไฟฟ้า/กระแสไฟฟ้าตามข้อกำหนด

🚀 Loading interactive interface...

If you see this message, JavaScript may not be activated or is still loading.

Reload page if necessary.